ข่าวกีฬา เคลเลเฮอร์สุดยอด,ตัวสำรองพลิกเกม!

ข่าวกีฬา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

ข่าวกีฬา พลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก คาราบาว คัพ ได้แบบสุดระทึก หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ ดวลจุดโทษชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 5-4 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

โดยที่เกม 90 นาที เสมอกันสุดมันส์ 3-3 ซึ่งมาได้ ทาคุมิ มินามิโนะ ยิงเจ๊านาทีที่ 90+5 และนี่คือผลสอบของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ละคนในแมตช์นี้ ซึ่งมีคะแนนดีหลายคน แต่ดาวรุ่งบางรายสอบไม่ผ่าน

11 ผู้เล่นตัวจริง

– ควีวิน เคลเลเฮอร์ : 8

แม้เสีย 3 ประตูในเกม 90 นาทีก็จริง แต่สุดท้ายเป็นฮีโร่ช่วยทีมผ่านเข้ารอบตัดเชือก ด้วยการเซฟ 2 หนในช่วงดวลจุดโทษ

– คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ : 5.5

กล้าเล่นกล้ารุก แต่ยังขาดประสิทธิภาพ ส่วนเกมรับก็โดนโจมตีบ่อยครั้ง ต้องพัฒนากันต่อไป

– โจ โกเมซ : 5

การเล่นยังไม่เข้าที่เข้าทาง มีข้อผิดพลาดให้เห็นตั้งแต่ต้นเกม และมีมาเรื่อยๆ โชคดีที่มาได้ โกนาเต้ ช่วยงานในครึ่งหลัง

– บิลลี่ คูเมติโอ : 4

คุมหลวม แถมไร้ซึ่งความเร็ว มีส่วนทำให้ทีมเสียสองประตูตั้งแต่หัววัน และหลังจากนั้นก็มีเสียบอลง่าย ต้องพัฒนาอีกหลายจุดสำหรับปราการหลังดาวรุ่งร่างยักษ์ชาวฝรั่งเศสวัย 19 ปี

– คอสตาส ซิมิคาส : 7

มีลูกครอสสวยๆ ให้เห็น แม้โดยรวมยังไม่ค่อยมีทีเด็ดทีขาด แต่ความทุ่มเทดีเยี่ยมวิ่งจนหมดแรง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกท้ายเกม

– ไทเลอร์ มอร์ตัน : 6

มีจังหวะผ่านบอลสวยๆ ให้เห็น แต่รับมือแดนกลาง เลสเตอร์ ไม่ค่อยอยู่ แม้มีจังหวะสกัดสำคัญ (วิ่งปาดหน้า เจมี่ วาร์ดี้) ช่วงท้ายครึ่งแรกก็ตาม

– จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม) : 5.5

เพิ่งหายป่วย สภาพร่างกายยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ทำให้ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานชัดเจน และเร่งไม่ขึ้น จนถูกเปลี่ยนตัวออกกลางครึ่งหลัง

– อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน : 7.5

ยิงได้สุดคมกับประตูตีไข่แตก 1-2 แม้มีหลายครั้งที่ดูมุ่งมั่นเกินไป และตัดสินใจไม่ค่อยดี แต่โดยรวมถือว่ามีเกมที่น่าประทับใจ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมแดนกลาง แถมสังหารไม่พลาดในช่วงดวลเป้า

– เนโก วิลเลี่ยมส์ : 7

ตอนแรกถูกส่งลงเล่นในแนวรุก ซึ่งทำอะไรไม่ได้มาก แม้มีส่วนกับประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ก็ตาม ก่อนที่จะถอยมาเล่นเป็นแบ็กขวาตามถนัด ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีใช้ได้เลยทีเดียว

– ทาคูมิ มินามิโนะ : 7.5

หากมองในภาพรวมแล้ว ดูเหมือนยังไม่ใช่เกมที่ดีนัก แถมยิงจุดโทษพลาดในช่วงดวลเป้า แต่ถึงยังไงก็ต้องยกย่องให้เป็นหนึ่งในฮีโร่ของทีม ที่ซัดประตูตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 90+5 และยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ โชต้า กดประตู 2-3 ด้วย

– โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ : 7

ทำได้เยี่ยมกับการแตะบอลคืนหลังให้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยิงประตูตีไข่แตก 1-2 แม้จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ แต่ก็เป็นอีกคนที่สังหารลูกจุดโทษได้อย่างเด็ดขาด

ขอบคุณข่าว : https://www.siamsport.co.th/